Home Touring “ภูทับเบิก” มนต์เสน่ห์แห่งขุนเขาและทุ่งกะหล่ำปลี

“ภูทับเบิก” มนต์เสน่ห์แห่งขุนเขาและทุ่งกะหล่ำปลี

by dcar magazine

ปี 2568 ก็เข้ามาถึงเดือนที่ 9 ของปี พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของไทยอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป “นิตยสารรถ ดีคาร์” ของเราก็เช่นกัน ยังคงพาท่านไปเที่ยวกันต่อ ครั้งนี้เราพาท่านไปเที่ยวภูเขาแห่งกะหล่ำปลีและวัดที่สูงที่สุดในประเทศไทย บนเส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวลดคล้ายงูยักษ์เลื้อยพาดผ่านภูเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม “คำเตือน” นักท่องเที่ยวที่จะขับรถขึ้นภูทับเบิก เช็คระบบเบรกของรถให้ดี ขอให้ขับด้วยความระมัดระวัง อย่าประมาท จะแซงต้องมั่นใจว่าปลอดภัย อย่าเลียเบรกมากไปจะทำให้น้ำมันเบรกร้อนเกินไป ทำให้เบรกแตกได้ ตอนขาลงต้องใช้เกียร์ต่ำและต้องใช้ Engine Break ช่วยด้วยค่ะ

“ภูทับเบิก” เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ภูทับเบิกมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงาม มีอากาศบริสุทธิ์ อากาศเย็นสบายตลอดปี และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา แต่น่าเสียดายตอนที่เรามาไม่ได้อยู่ในช่วงการปลูกกะหล่ำปลี

ที่เราตั้งใจมาในครั้งนี้ก็คือจะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยว “วัดป่าภูทับเบิก” วัดธรรมยุติที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ บนยอดเขาสูง 1,786 เมตร จากระดับน้ำทะเล ห่างจากจุดชมวิวภูทับเบิกประมาณ 6 กิโลเมตร รายล้อมไปด้วยป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีสายหมอกปกคลุมในตอนเช้ามีและมีอากาศเย็นสบายตลอดปี

​จุดเด่นของวัดป่าภูทับเบิกคือ พระมหาธาตุเจดีย์โพธิปักขิยธรรม ซึ่งเป็นเจดีย์เพชร 37 ยอด มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในผอบทองคำ สูง 99 เซนติเมตร และฉัตรทองคำสูง 161 เซนติเมตร ประดิษฐานบนยอดสูงสุด อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธโคดมปางไสยาสน์ และพระศรีอริยเมตไตรย ลงรักปิดทองประดับเพชรพลอยรัตนชาติ โดยมีพระประจำวันประดิษฐานอยู่ทั้ง 4 ทิศ องค์พระมหาธาตุเจดีย์รายล้อมไปด้วยผอบทองคำที่บรรจุพระอัฐิธาตุพระอัครสาวก 36 พระองค์ ด้านหน้าพระมหาธาตุเจดีย์มีบันไดพญานาคเงิน-พญานาคทอง 9 เศียร และอีกสิ่งที่ผู้เขียนชอบมากก็คือบรรดาเหล่าเทวดานางฟ้าที่เรียงรายอยู่ภายในวัด ซึ่งดูสวยงามอ่อนช้อยด้วยฝีมือของช่างที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

ถ้ามีเวลาว่าง ขอแนะนำเลยค่ะ ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน