มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อัพเกรดรถยนต์เอนกประสงค์สำหรับครอบครัวแบบ 7 ที่นั่ง ให้เป็นรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดหนีขีดจำกัดของรถไฟฟ้า ด้วยเอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รถยนต์สำหรับผู้ที่อยากขับรถไฟฟ้า แต่กลัวว่าจะไม่มีที่ชาร์จหรือไม่อยากต่อคิวเสียบปลั๊ก
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา Dcar ได้รับหมายจากค่ายรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้เดินทางไปร่วมทดสอบรถครอบครัวเอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่มีชื่อว่า “เอ็กซ์แพนเดอร์” แต่ช้าก่อนครับมันไม่ใช่ เอ็กซ์แพนเดอร์ธรรมดา เพราะมาครานี้มิตซูฯ ยัดเอาต้นกำลังแบบ “ไฮบริด” ใส่เข้ามา และมันก็ไม่ใช่ไฮบริดแบบธรรมดา แต่เป็นระบบไฮบริดแบบผสม หรือฟูลไฮบริด ที่รวมเอาทั้งระบบไฮบริดแบบพาราเรลและซีรี่ย์ไว้ด้วยกัน และยังออกแบบชุดเกียร์มาใหม่ให้มันทำงานร่วมและช่วยกันได้อย่างลงตัวแบบไม่ออกอาการให้จับสังเกตได้เลย โดยตัวรถถูกออกแบบมาให้ขับเคลื่อนบนพื้นฐานของรถไฟฟ้าเป็นหลัก มีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งานถึง 7 โหมด อีกทั้งยังเสริมระบบการควบคุมสมดุลขณะเข้าโค้ง (AYC) ตามโหมดการขับขี่ ขับง่าย คุมง่าย ลุยได้แม้ทางโคลน
ที่สนามทดสอบ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ถูกเตรียมไว้ให้เราได้ทดลองขับกันหลายคัน และสนามทดสอบก็ถูกเตรียมไว้ให้ได้ขับกันถึง 4 สภาพถนนกับ 5 โหมดการใช้งาน ยกเว้นโหมด EV ละโหมดชาร์จขณะขับ เนื่องจากในโหมด NoRmal รถจะวิ่งด้วยไฟฟ้าอยู่แล้วถ้าแบตเตอรี่มีแบตฯ เหลืออยู่มากกว่าค่าที่ตั้งไว้ ผมได้โอกาสทดสอบทางฝุ่นก่อน สนามแบบสลาลอม ต่อด้วยโค้งแคบแบบวงกลม โหมดการขับถูกปรับใช้โหมด NORMAL เพื่อดูการทำงานของระบบควบคุมการทรงตัว AYC และรอบที่ 2 ปรับไปที่ GRAVEL Mode เพื่อเปรียบเทียบการทำงานของ AYC และเราก็รับรู้ได้ถึงการทำงานของ AYC ที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้นกับสภาพผิวทางที่ลื่นไถลได้ง่ายๆ อย่างถนนลูกรัง ถนนกรวด หรือฝุ่นลอย โดย AYC ถูกออกแบบให้ปรับการทำงานตามโหมดการขับขี่ หลังจากนั้นก็มาสู่โหมดที่ไม่คิดว่าจะมีรถไฮบริดขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า จะสักกี่คันที่กล้าท้าให้ลอง นั่นคือจับฝ่าทางโคลน โหมดการขับขี่ถูกปรับมาที่ MUD Mode จากนั้นก็ออกรถความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับขับรถออกไปปากซอยบ้านขับง่ายจนแทบไม่รู้สึกว่าทางที่ผ่านมาเป็นทางโคลนและรถที่ขับคือ รถขับเคลื่อน 2 ล้อคู่หน้า จากนั้นก็ต่อด้วยทางเรียบบนถนนลาดยาง ขับ 2 รอบเช่นกันรอบแรก ในโหมด TAMAC ทางทดสอบที่เต็มไปด้วยโค้งแคบทั้งซ้ายและขวาดูจะผ่านได้ง่ายๆ แม้จะเป็นทางเปียก ทั้งพวงมาลัยและช่วงล่างทำงานผสานกับ AYC ได้อย่างลงตัว ขับง่ายควบคุมง่ายช่วงล่างกำลังพอดี แต่ถ้านั่งเต็มอัตราคาดว่าคงต้องลดความเร็วลงพอสมควร อัตราเร่งที่ทางตรงนั้นทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์ทำงานผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และเมื่อต้องใช้เบรก ระบบเบรกเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่ตอบสนองได้อย่างดีมากๆ ต่างจากเบรกรถไฮบริดและรถไฟฟ้าอื่นๆ และรอบที่ 2 เมื่อผ่านทางเปียกโหมดถูกเปลี่ยนเป็น WET MODE ความเร็วถูกเติมเข้าไปบ้างนิดหน่อย ผลออกมาคือผ่านแบบไม่ต้องลุ้น
โดยในโอกาสเฉลิมฉลองการเปิดตัวใหม่นี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส พร้อมมอบราคาพิเศษช่วงแนะนำ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 7 เมษายน 2567 เพื่อเป็นของขวัญให้กับลูกค้ามิตซูบิชิ ที่รักทุกท่าน โดยมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี ใหม่! มีราคาจำหน่ายช่วงแนะนำเริ่มต้นที่ 912,000 บาท ขณะที่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ใหม่! มีราคาจำหน่ายช่วงแนะนำเริ่มต้นที่ 946,000 บาท ซึ่งมีราคาจำหน่ายเท่ากับรุ่นเครื่องยนต์สันดาปในปัจจุบัน
สำหรับผู้ที่อยากลองใช้รถไฟฟ้า แต่ยังไม่กล้าหรือกลัวว่าในระยะยาวแล้วจะเป็นขยะเทคโนโลยี ครั้นจะเลือกไฮบริดก็กังวลว่าจะแบบมีปลั๊กหรือไม่มีปลั๊กดี เพราะต่างมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน งานนี้ดูเหมือนว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะตอบโจทย์ให้แล้วกับความรู้สึกการใช้งานรถไฟฟ้ามีดีกว่าที่ไม่ต้องไปเข้าคิวเสียบปลั๊ก
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dcarmagazine.com/th/new-car/xpander-4/