Home Touring ลัดเลาะริมโขงเที่ยวเมืองรอง “นครพนม ดินแดนแห่งศรัทธา ความเชื่อและวัฒนธรรม” ตอนที่ 2

ลัดเลาะริมโขงเที่ยวเมืองรอง “นครพนม ดินแดนแห่งศรัทธา ความเชื่อและวัฒนธรรม” ตอนที่ 2

by dcar magazine

สวัสดีค่ะทุกคน สงกรานต์ปีนี้ก็ยังคงเงียบเหงาเหมือนสองปีก่อน เพราะสถานการณ์โควิดก็ยังไม่ดีขึ้น ประกอบกับข้าวของเครื่องใช้ อาหาร แก๊ส น้ำมันแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐกลับลุยแก้ไขหวยแพง เฮ้อ!!! กลับมาที่เรื่องเที่ยวของเราต่อดีกว่า ฉบับก่อนเราไปไหว้พระธาตุพนม ที่ อ.ธาตุพนม กับพระธาตุศรีคุณ ที่ อ.นาแก ระหว่างที่เราพักกินมื้อกลางวัน ก็มีผู้แนะนำให้เราขึ้นไปที่วัดถ้ำสูงดอยสวรรค์ เพราะอยู่ห่างจากพระธาตุศรีคุณเพียง 8.6 กิโลเมตร จะรออะไรก็ไปซิคะ

“วัดถ้ำสูงดอยสวรรค์” อยู่บนเขาภูพานน้อย เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล ทางขึ้นเป็นเส้นทางคอนกรีตสลับหินและทางฝุ่นคดเคี้ยว วัดตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน มีสะพานไม้เลียบเลาะขึ้นไปตามหน้าผา สูงกว่า 20 เมตร บริเวณวัดเงียบสงบ สะอาด อากาศค่อนข้างเย็น เดิมเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของ “หลวงปู่สนธิ์ คัมภีรญาโณ” ผู้มีฉายาว่า “พระโพธิสัตว์ใหญ่แห่งเทือกเขาภูพาน” ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่เคยเดินธุดงค์ไปวิปัสสนากรรมฐาน ศาลาการเปรียญสร้างด้วยไม้เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และพระที่นี่เป็นพระฝ่ายธรรมยุติ

เมื่อกลับลงมาเราก็มุ่งหน้าไปที่ อ.เรณูนคร เพื่อไป “วัดธาตุเรณู” เพื่อไปไหว้พระธาตุสำหรับคนเกิดวันจันทร์ “พระธาตุเรณู” มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยม ซึ่งจำลองมาจากพระธาตุพนมองค์เดิม แต่มีขนาดเล็กกว่า สูง 35 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 8.37 เมตร ภายในบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำและเงิน และพระบรมสารีริกธาตุ อุโบสถของวัดธาตุเรณู เป็นที่ประดิษฐาน “พระองค์แสน” เป็นพระพุทธรูปทองคำซึ่งเป็นศิลปะแบบลาว

กำหนดการเดิมเราจะไปไหว้พระธาตุมหาชัย ซึ่งเป็นพระธาตุสำหรับคนเกิดวันพุธกลางวัน แต่ต้องพักไว้ก่อนเพราะเย็นเกินไป เราจึงเบนเข็มไปยังที่พักที่จองไว้ใกล้ถนนเลียบโขง เพื่อไปเที่ยวลานพญาศรีสัตตนาคราช ที่ถนนสุนทรวิจิตร “พญาศรีสัตตนาคราช” เป็นพญานาคขดหาง 7 เศียร สร้างด้วยทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน น้ำหนักรวม 9,000 กิโลกรัม ประดิษฐานบนแท่นแปดเหลี่ยม กว้าง 6 เมตร ความสูงรวมฐาน 15 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นตามความเชื่อของชาวท้องถิ่น ขณะที่เราไป มีผู้ไปทำพิธีการบวงสรวงกันแทบจะตลอดเวลา บนถนนเส้นนี้จะมีหอนาฬิกาที่ระลึก ซึ่งสร้างโดยชาวเวียดนามเมื่อครั้งอพยพกลับประเทศ มีร้านอาหาร และสตรีทอาร์ต ในตอนค่ำของวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ จะมีถนนคนเดิน และบนถนนเส้นนี้มีวัดสวยๆ อีกหลายวัด โดยหนึ่งในวัดนั้นก็คือ “วัดมหาธาตุ” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระธาตุประจำตัวของคนเกิดวันเสาร์

“พระธาตุนคร” พระธาตุสำหรับคนเกิดวันเสาร์ มีลักษณะทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส รูปทรงแบบพระธาตุพนมองค์เดิมตั้งบน ฐานใหญ่ 2 ฐาน ต่อลดหลั่นกันตามลำดับ แต่ละฐานมีรูปประตู ตรงกลางประตูเป็นรูปคล้ายบัวบาน ข้างประตูเป็นลายเครือไม้ดอกไม้ผลรูปพระราชาทรงช้างทรงม้าต่อจากฐานใหญ่ทั้งสองขึ้นไปมีลักษณะแหลมเรียวขึ้น ตอนกลางในด้านทั้งสี่มีรูปดาวกระจาย (ดอกกระจับ) ถัดขึ้นไปทำเป็นรูปตู้ พระไตรปิฎกโบราณ ต่อด้วยรูปคล้ายกลีบบัว ยอดสุดเป็นดอกบัวตูมและฉัตรทองแดงเหลืองเจ็ดชั้น บนยอดมีลูกแก้วเจียระไน 1 ดวง ฐานมีกำแพงล้อมรอบ ทั้ง 4 ด้าน มีซุ้มประตูซึ่งมีรูปปั้นเทพมเหศักดิ์พิทักษ์องค์พระธาตุ

การไหว้พระธาตุประจำวันเกิดของเราก็ต้องจบลงแค่นี้ เพราะเราต้องเดินทางต่อไปบึงกาฬ สำหรับพระธาตุที่เหลือเราจะมาตามเก็บกันในการมานครพนมครั้งต่อไป พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ